บทความและสื่อประชาสัมพันธ์

กองทรัสต์ “พรอสเพค” เดินหน้าซื้อสินทรัพย์เข้าพอร์ตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 66 ขนาดกองทุนแตะหมื่นล้าน

นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล (PROSPECT) เปิดเผยว่า กองทรัสต์พรอสเพคฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ (ขนาดกอง) แตะระดับ 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (2564-2566) จากปัจจุบันที่ 3,626.46 ล้านบาท โดยมีแผนซื้อทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์เพิ่ม คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2564

ทั้งนี้ การซื้อทรัพย์สินดังกล่าวเป็นการซื้อโดยไม่เพิ่มทุน ดังนั้น ผู้ถือหน่วยจึงมั่นใจได้ว่ากองทรัสต์จะจ่ายผลตอบแทนได้ตามที่ระบุไว้ 11.12%

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการทำ Feasibility เพื่อนำทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์อีก 1 แห่ง แต่ด้วยขนาดสินทรัพย์ที่ค่อนข้างใหญ่ กล่าวคือมีมูลค่ามากกว่า 20 ล้านบาท หรือมีมูลค่าเกิน 3% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุ จึงต้องแจ้งผู้ถือหน่วยเพื่อขอมติเข้าลงทุน โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 2565

ทั้งนี้ การซื้อทรัพย์สินในปีหน้าจะเป็นการซื้อทรัพย์สินแบบที่ต้องเพิ่มทุน ซึ่งบริษัทประเมินผลตอบแทนแล้วว่าภายหลังการเข้าซื้อทรัพย์สินดังกล่าว กองทรัสต์พรอสเพคจะยังสามารถจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยได้ที่ระดับประมาณ 9% (IRR)

ในการนี้ PROSPECT ยังมีแผนซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติมเพื่อหนุนการเติบโตของกองทรัสต์ เบื้องต้นได้สิทธิพิจารณาทรัพย์สินของบริษัทแม่บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จำนวน 5 โครงการ พื้นที่รวมกว่า 6.2 แสนตารางเมตร นอกจากนี้ บริษัทแม่ยังให้อิสระในการพิจารณาทรัพย์สินเข้ากองทุนจากผู้ขายทรัพย์สิน (Sponsor) รายอื่นอีกด้วย ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นโรงงานและคลังสินค้า แต่บริษัทไม่ได้ปิดกั้นในการหาโอกาสลงทุนทรัพย์สินในเซกเตอร์อื่น

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2564 กองทรัสต์มีรายได้รวม 110.79 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 73.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีรายได้ 107.95 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 71.73 ล้านบาทโดยมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 98.2% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่ 96% และมีอัตราค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 175 บาทต่อตารางเมตร ใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่ 173-174 บาทต่อตารางเมตร

“สถานการณ์โควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทรัสต์แบบมีนัยสำคัญ สะท้อนจากอัตราการเช่าที่ยังสูง และในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 คาดว่าจะยังทรงตัวสูงต่อเนื่อง เพราะผู้เช่ามีความแข็งแกร่งและสามารถปรับตัวได้ดี รวมถึงมีการกระจายตัวในหลายอุตสาหกรรมจากหลายประเทศ นอกจากนี้ ผู้เช่าที่จะครบอายุสัญญาเช่าในไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2564 ต่ออายุสัญญาเช่าแล้วกว่า 90%”

Source : กรุงเทพธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/business/962314