PROSPECT REIT เผยผลงานไตรมาส 2/2565 โตโดดเด่น ผู้เช่ารายเดิมต่อสัญญา 100% เตรียมจ่ายปันผล 0.2285 บาท
- PROSPECT REIT ตอกย้ำการคัดเลือกทรัพย์สินคุณภาพ ดันอัตราการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าสูงขึ้นแตะ 94.5%
- แนวโน้มครึ่งปีหลังยังโตต่อด้วยปัจจัยหนุนจากการผ่อนปรนมาตรการโควิด คาดพื้นที่ Free Zone ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติหลั่งไหลตั้งฐานการผลิตในไทยต่อเนื่อง
กรุงเทพฯ, 11 สิงหาคม 2565 - บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ “PROSPECT REIT” เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 ยังแข็งแกร่ง มีรายได้รวม 111.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 1.56% และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ (กำไรจากการดำเนินงาน) 71.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.17% โดยปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญมาจากอัตราการเช่าทรัพย์สิน (Occupancy Rate) ที่สูงขึ้นโดยอยู่ที่ 94.5% ยังคงอัตราการเช่าในระดับนี้มาได้ตลอด พร้อมด้วยทำเลที่ตั้งโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (BFTZ) บนถนน บางนา - ตราด กม.23 เป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของไทย รวมถึงคุณภาพและความยืดหยุ่นในการใช้งานอาคาร จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาเช่าคลังสินค้าและโรงงานอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ PROSPECT REIT ได้เตรียมจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ในอัตรา 0.2285 บาทต่อหน่วย กำหนดจ่ายในวันที่ 9 กันยายน 2565 พร้อมกับปักหมุดเดินหน้าลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูงเต็มสูบ หลังจากผู้ถือหน่วยทรัสต์มีมติอนุมัติให้ PROSPECT REIT ลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม ครั้งที่ 2 ในโครงการ BFTZ 2 และ โครงการ BFTZ 3 และได้ยื่น Filing ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา
นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า “สถานการณ์ไตรมาส 2/2565 มีสัญญาณดี จะเห็นได้จากผลการดำเนินงานของเราสูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมา โดยเฉพาะการรักษาฐานผู้เช่าเดิมที่หมดสัญญาในไตรมาส 2/2565 ให้ต่อสัญญาได้เต็ม 100% ซึ่งอัตราการต่อสัญญา (Renewal Rate) นับตั้งแต่ก่อตั้ง PROSPECT REIT ไม่เคยต่ำกว่า 80% ประกอบกับมีผู้เช่ารายใหม่ทั้งไทยและต่างชาติเพิ่มเติมเข้ามา ดำเนินธุรกิจแปรรูปอาหารและการให้บริการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต จากผลการดำเนินงานดังกล่าวสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการคัดเลือกทรัพย์สินคุณภาพของผู้บริหาร PROSPECT REIT โดยพิจารณาส่วนสำคัญหลักๆ ได้แก่ ศักยภาพของทำเลที่ตั้ง คุณภาพของทรัพย์สินที่ได้มาตรฐานภายใต้การดูแลและการบริหารจัดการที่ดี ความเชี่ยวชาญของผู้บริหารโครงการ การบริการครบวงจรแบบ One-Stop Service ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจของผู้ประกอบการในการเช่าอาคารต่อเนื่องในระยะยาวได้”
แนวโน้มครึ่งปีหลัง PROSPECT REIT ประเมินภาพรวมตลาดคลังสินค้าและโรงงานยังคงสดใส ด้วยปัจจัยเชิงบวก อาทิ การผ่อนปรนมาตรการการเดินทาง สถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว และตามข้อมูลของสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์สรุปภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทย มีสถิติการนำเข้าและส่งออกที่เติบโตขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่ 34.05% และ 20.49% ตามลำดับ ปัจจุบันทรัพย์สินภายใต้การบริการจัดการตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.23 ที่มีความได้เปรียบในเรื่องการขนส่ง เป็นศูนย์กลางการเดินทางที่เชื่อมต่อการขนส่งทางอากาศ ทางบกและทางน้ำ นอกจากนี้โครงการยังมีทั้งพื้นที่เขตปลอดอาการ (Free Zone) และ พื้นที่ทั่วไป (General Zone) ด้วยความโดดเด่นด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีของพื้นที่เขตปลอดอาการ (Free Zone) จะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ให้ทยอยเข้ามาตั้งฐานการผลิตเพิ่มขึ้นในอนาคต
“สำหรับไตรมาสนี้ มีการรับรู้รายได้ค่าเช่าของโครงการ X44 ถนนบางนา-ตราด กม.18 ที่ PROSPECT REIT เข้าลงทุนเมื่อต้นปี โดยเป็นทรัพย์สินจากผู้พัฒนาโครงการรายอื่นนอกเหนือจาก Sponsor หลัก และช่วงปลายปี 2565 PROSPECT REIT จะลงทุนเพิ่มเติมในโครงการ BFTZ 2 ถนนเทพารักษ์ และ BFTZ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 พัฒนาโครงการ โดย บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่ได้ยกระดับดีไซน์อาคาร ปรับโฉมใหม่ให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ผู้จัดการกองทรัสต์เชื่อมั่นว่าการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่มีความอิสระในการคัดเลือกทรัพย์สินที่จะลงทุนและเน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพสูง จะสามารถขยายมูลค่าสินทรัพย์แตะ 10,000 ล้านบาท ตามเป้า ปูทางสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของ PROSPECT REIT” นางสาวอรอนงค์ กล่าวเสริม