PROSPECT REIT ประกาศจ่ายปันผล 0.2600 บาท หลังรายได้ Q4 แตะ 110.34 ล้านบาท โตขึ้นกว่า 6.10% พร้อมเดินหน้าลุยตามแผน เตรียมเข้าลงทุนในทรัพย์ใหม่ที่มีคุณภาพ เพื่อสร้าง การเติบโตและผลการตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอให้แก่นักลงทุน
บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ PROSPECT REIT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2564 รายได้รวม 110.34 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 294.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.54% เป็นผลมาจากการเข้าลงทุนในทรัพย์ที่มีคุณภาพดีและให้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเช่าเฉลี่ย 94% ล่าสุดประกาศจ่ายปันผลสูงถึง 0.2600 บาทต่อหน่วยทรัสต์ พร้อมเดินหน้าตามแผน เตรียมศึกษาลงทุนในทรัพย์สินใหม่ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าของทรัพย์ในกองให้เติบโตเป็น 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ PROSPECT REIT เผยว่า จากความท้าทายของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยาวนานเข้าปีที่ 2 ส่งผลต่อเศษฐกิจภาพรวมของประเทศ แต่ในขณะเดียวกันตลาดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน อาทิ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระดาษ ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจด้านเทคโนโลยี-ออนไลน์ ธุรกิจอีคอมเมิร์ช กลับมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการที่มีพื้นที่เช่าที่สามารถตอบโจทย์นักลงทุนที่สนใจเช่าโรงงานและคลังสินค้าได้ จะสามารถปล่อยพื้นที่เช่าให้เติบโตตามไปด้วย ซึ่งโครงการที่ PROSPECT REIT ลงทุนมีสัดส่วนผู้เช่ากลุ่มเหล่านี้มากกว่า 35% จึงทำให้ PROSPECT REIT สามารถสร้างการเติบโตพร้อมกับให้ผลตอบแทนที่ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4/2564 มีรายได้รวม 110.34 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวมตลอดปีบัญชี (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564) ที่ 443.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 294.98 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4/2564 มีอัตราการเช่าพื้นที่ 94% ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานประจำปีที่ได้วางไว้
“สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของ PROSPECT REIT ในปีที่ผ่านมา ยังมีผลการดำเนินงานที่ดีตามแผนที่ได้วางไว้ มีลูกค้าที่แสดงความต้องการเช่าพื้นที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตปลอดอากร หรือ Free Zone ที่เป็นจุดเด่นของโครงการ Bangkok Free Trade Zone (BFTZ) แม้ยังอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทุกภาคส่วน ในปีที่ผ่านมาทาง PROSPECT REIT แทบจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่กลับได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้เช่าเองก็ได้รับปัจจัยบวกทางธุรกิจไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่มอาหาร กลุ่มอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ มีการขยายตัวของธุรกิจมากขึ้นได้ เติบโตสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป”
ผู้จัดการกองทรัสต์ ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยในปี 2565 หากการฉีดวัคซีนกระจายได้ทั่วถึง การระบาดของสายพันธุ์ Omicron และสายพันธุ์อื่นไม่รุนแรง จะนำไปสู่การเปิดประเทศอีกครั้ง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการ ทั้งในเรื่องอัตราการเช่าและค่าเช่าของ PROSPECT REIT ปรับตัวได้ดีขึ้น จากการเข้ามาของนักธุรกิจจากต่างประเทศที่ได้ชะลอการลงทุนและติดอุปสรรคการเดินทางในช่วงที่ผ่านมา
นางสาวอรอนงค์ กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง และเป็นไปตามแผนดำเนินงานประจำปีที่วางไว้ บอร์ดจึงมีมติอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2564 แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ในอัตรา 0.2600 บาทต่อหน่วย จะปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทน (Book Closing Date) ในวันที่ 4 มีนาคม 2565 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 15 มีนาคม 2565
“สำหรับปีที่ 2 ของการดำเนินงาน ผู้จัดการกองทรัสต์ยังคงเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมาย จะเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินเป็น 10,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี ปัจจุบันการเข้าลงทุนในทรัพย์สินใหม่ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และอยู่ในช่วงดำเนินการ ซึ่งทรัพย์สินยังคงเป็นประเภทคลังสินค้าและโรงงาน ซึ่งอยู่ในทำเลที่เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ มีคุณภาพทรัพย์สินพร้อมทั้งอัตราการเช่าที่ดี ฝากนักลงทุนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ซึ่งน่าจะมีให้เห็นกันในเร็วๆ นี้”